ต้นขาเป็นหนึ่งในบริเวณที่ไขมันสะสมยากจะลดลง แม้ว่าจะดูแลน้ำหนักตัวดีแล้วก็ตาม ไขมันใต้ผิวหนังบริเวณต้นขาและสะโพกยังอยู่ ทำให้ขาดูไม่เรียวหรือมีเซลลูไลท์ การ ดูดไขมันต้นขา จึงเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ ช่วยปรับรูปร่างขาให้เรียวสวย ชัดสัดส่วน และเพิ่มความมั่นใจ

ไขมันขา คืออะไร

ไขมันขาเป็นไขมันใต้ผิวหนัง (subcutaneous fat) สะสมบริเวณต้นขาด้านใน ด้านนอก และสะโพก ที่มักสร้างปัญหาเซลลูไลท์และต้นขาบาน แม้จะมีวิธีลดน้ำหนัก หรือออกกำลังกายแล้วก็ลดยาก เนื่องจากผิวหนังชั้นนี้มีโครงสร้างยึดเหนียวและมัดแหลมมาเป็นเวลานาน

สาเหตุที่ทำให้มีไขมันขา

• พันธุกรรมและเพศ ผู้หญิงมักสะสมไขมันบริเวณขามากกว่าเนื่องจากฮอร์โมน
• แอลกอฮอล์และไขมันสูง ส่งเสริมการสะสมในต้นขา
• นั่งนาน / ออกกำลังกายไม่เพียงพอ ลดการเผาผลาญจุดสำคัญ
• ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เช่นหลังตั้งครรภ์ หรือตอนหมดประจำเดือน
• อายุและผิวหย่อน ยิ่งอายุเยอะผิวแย่ขึ้น เซลลูไลท์ชัดขึ้น

ดูดไขมันต้นขา มีข้อดีอย่างไร?

รูปร่างขาเรียวทันที สามารถกำจัดไขมันแล้วปรับรูปขาให้ชัดขึ้น ภายในหนึ่งหัตถการ
ลดเซลลูไลท์และผิวคด ดูดไขมันจะคลายโครงสร้างใต้ผิว ทำให้ผิวเรียบกระชับขึ้นอย่างเห็นผล
ไม่ต้องฉีดซ้ำหลายครั้ง ผลลัพธ์ถาวรหากรักษาสุขภาพ ไม่อ้วนขึ้นใหม่
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เทคนิคบางแบบ ช่วยให้ผิวชั้นบนกระชับและแข็งแรงขึ้น
ฟื้นตัวเร็ว เทียบกับการผ่าตัดใหญ่ ฟื้นตัวเร็ว และกลับใช้ชีวิตปกติได้ภายไม่กี่สัปดาห์

ดูดไขมันต้นขา เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณขา, สะโพก, บั้นท้าย
• น้ำหนักใกล้เกณฑ์ (BMI ไม่เกิน 30) และผิวยังยืดหยุ่นดี
• ออกกำลังกายควบคุมแล้วแต่ยังลดไขมันขาไม่ได้
• ต้องการเห็นผลเร็ว ไม่ต้องใช้เวลาออกกำลังกายนาน

ใครที่ไม่ควรดูดไขมันบริเวณต้นขา

• ผู้ที่มีผิวหย่อนหย่อนจนต้องตัดหนัง
• ผู้ที่มีโรคหัวใจ รุนแรง เบาหวานไม่ควบคุม
• น้ำหนักเกินระดับ BMI > 30 หรือมีไขมันมากทั่วร่างกาย
• ตั้งครรภ์ ให้นม หรือมีปัญหาเลือดออก/ภูมิคุ้มกันบกพร่อง

การเตรียมตัวก่อนดูดไขมันบริเวณต้นขา

• สำรวจและประเมินโดยแพทย์
• งดยาละลายลิ่มเลือด (aspirin, vitamin E) 1 สัปดาห์
• งดบุหรี่/แอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์
• ตรวจเลือด, ตรวจสุขภาพทั่วไป

ขั้นตอนการดูดไขมันขา

• แพทย์ประเมินและทำเครื่องหมายบริเวณ
• ให้ยาชาหรือยาสลบตามวิธี
• เปิดแผลเล็ก 3–6 แห่งตามความเหมาะสม
• ฉีดสาร Tumescent ถ้าใช้
• ดูดไขมันทีละจุดด้วย cannula จนผิวเรียบ
• เย็บแผล ใส่ชุดกระชับและให้คำแนะนำเบื้องต้น

หลังดูดไขมันบริเวณขา ต้องดูแลตัวเองอย่างไร?

• ใส่ชุดกระชับทุกวันอย่างน้อย 6–8 สัปดาห์
• งดออกแรงหนัก, ยกของ, สควอช, วิ่งหนัก อย่างน้อย 3–4 สัปดาห์
• ประคบเย็นช่วงแรก 2–3 วัน เพื่อลดบวม
• ล้างแผล รับประทานยา ตามแพทย์สั่ง
• ดื่มน้ำ พักผ่อนให้เพียงพอ
• เริ่มเดินเบา 2–3 วันหลังทำ
• มาพบแพทย์เพื่อตรวจแผลและประเมินฟื้นตัวตามนัด

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

• บวมและช้ำ 2–4 สัปดาห์
• รู้สึกชา จับไม่ค่อยรู้สึกหรือแสดงความผิดปกติใต้ผิว 2–8 สัปดาห์
• ผิวไม่เรียบเป็นคลื่นหากดูดไม่สม่ำเสมอ
• Seroma หรือน้ำเหลืองคั่งใต้ผิว ต้องเจาะถ้าจำเป็น
• แผลอักเสบหรือมีพังผืด (น้อยมากหากดูแลดี)

ผลลัพธ์การดูดไขมันบริเวณขาอยู่ได้นานแค่ไหน?

ไขมันที่ดูดออกจะไม่กลับ แต่หากน้ำหนักเพิ่ม ไขมันอาจมาในส่วนอื่นของร่างกาย ผลชัดภายใน 1–3 เดือนเต็ม ขึ้นกับการฟื้นตัว แม้ว่าช่วงแรกผลอาจผันผวนบ้าง จนชัดเจนเมื่อครบ 6–12 เดือน

คำถามที่พบบ่อย

ดูดไขมันบริเวณขาท้องเจ็บไหม?

ไม่เจ็บระหว่างทำ มียาชาช่วย หลังทำอาจตึง, เดินไม่ถนัด ระยะสั้น

ดูดไขมันบริเวณขา อันตรายไหม?

ปลอดภัยสูงถ้าเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และศัลย์แพทย์ตกอน่เฉพาะทาง

ดูดไขมันขา ราคาเท่าไหร่?

โดยเฉลี่ย 40,000–120,000 บาท ขึ้นกับบริเวณ เทคนิค และปริมาณไขมัน

ควรเลือกคลินิกหรือแพทย์อย่างไร?

ควรเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตถูกต้อง และมีศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านตกแต่งใบหน้า ที่ Doctor Tony Clinic เราดูแลโดย ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง ที่มีประสบการณ์และความชำนาญ

สรุป

โปรแกรมดูดไขมันขาช่วยจัดการต้นขาใหญ่และเซลลูไลท์ได้อย่างชัดเจน เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด แม้ดูแลน้ำหนักดีแล้ว การเตรียมตัวและดูแลหลังทำที่เหมาะสมพร้อมแพทย์ที่เชี่ยวชาญ จะช่วยให้ขากระชับและสวยเป็นธรรมชาติ