โปรแกรม Microneedling ฟื้นฟูผิว หลุมสิว รอยสิว ปรับผิวให้เรียบเนียน
ในยุคที่ความงามและสุขภาพผิวเป็นสิ่งสำคัญ การดูแลผิว ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะ โปรแกรม Microneedling ซึ่งเป็นหนึ่งในนวัตกรรมฟื้นฟูผิวที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ด้านความงามทั่วโลก ด้วยหลักการทำงานที่กระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหลากหลายรูปแบบ ทั้งรอยสิว ริ้วรอย รูขุมขนกว้าง และผิวขาดความเรียบเนียน
บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ ไมโครนีดลิ่ง อย่างละเอียด ตั้งแต่หลักการทำงาน ประโยชน์ที่ได้ ความปลอดภัย รวมถึงการเตรียมตัวก่อนและหลังทำ เพื่อให้คุณเข้าใจกระบวนการรักษาอย่างแท้จริง และตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
สารบัญ
โปรแกรม Microneedling คืออะไร
โปรแกรม ไมโครนีดลิ่ง คือหัตถการด้านความงามที่ใช้เทคนิค “เข็มขนาดเล็ก” เจาะผิวในระดับตื้นถึงลึก เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นใหม่ ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเครื่อง Microneedling ในปัจจุบันพัฒนาให้แม่นยำ ปลอดภัย และสามารถปรับระดับความลึกของเข็มให้เหมาะกับปัญหาผิวแต่ละคนได้อย่างละเอียด
หลักการทำงานของโปรแกรม Microneedling
หลักการของ ไมโครนีดลิ่ง คือ “การสร้างบาดแผลขนาดเล็กแบบควบคุมได้” บนผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้ผิวซ่อมแซมตัวเอง โดยระหว่างการทำสามารถใส่สารบำรุง เช่น วิตามินเข้มข้น, เซรั่มฟื้นฟูผิว, พีอาร์พี (เกล็ดเลือดเข้มข้นจากเลือดของเราเอง) ลงไปพร้อมกันได้ด้วย เรียกว่าเป็นการ “ผลักสารบำรุงลึกถึงผิวชั้นใน” ผ่านรูเข็มที่เปิดไว้ ซึ่งช่วยให้ผลลัพธ์ของการรักษาชัดเจนมากขึ้น
โปรแกรม ไมโครนีดลิ่ง อันตรายไหม?
โดยทั่วไปแล้วเป็นหัตถการที่ปลอดภัยมาก หากทำโดย แพทย์มากประสบการณ์ ใช้อุปกรณ์ปลอดเชื้อ และใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน ผลข้างเคียงที่พบได้เล็กน้อย เช่น แดง บวม หรือรู้สึกตึงผิวเล็กน้อยหลังทำ 1–2 วัน และสามารถหายได้เองภายใน 3–5 วัน
การดูแลตัวเองก่อนทำ และหลังทำ
ก่อนทำ
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดผลไม้, เรตินอล หรือวิตามิน A อย่างน้อย 3 วัน
- งดเลเซอร์หรือหัตถการอื่น ๆ ก่อนหน้า 1 สัปดาห์
- แจ้งแพทย์หากมีการแพ้ง่ายหรือใช้ยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
หลังทำ
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด 3–5 วัน
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า 1–2 วัน
- หลีกเลี่ยงสครับผิวและผลิตภัณฑ์แรง ๆ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- ใช้สกินแคร์ที่ให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว เช่น เซราไมด์หรือไฮยาลูรอน
- ทาครีมกันแดด SPF50+ เป็นประจำ